|
โรค แมลง ศัตรูพืชและการเข้าทำลาย... มะขามหวานในฤดูแล้ง |
|
เผยแพร่ : วันที่ 11 เมษายน 2559 |
|
|
หนอนเจาะลำต้นและกิ่ง |
|
|
|
|
|
|
ลักษณะการเข้าทำลาย |
หนอนจะเจาะกิ่งหรือลำต้นเล็กๆ เข้าไปกัดกินอยู่ภายใน ทำให้กิ่งและต้นที่ถูกทำลายแห้งตาย เมื่อหักส่วนของพืชดังกล่าวดูจะพบมูลที่หนอนขับถ่ายออกมาซึ่งมีลักษณะเป็นจุดคล้ายขี้เลื่อยอยู่ภายใน |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. ตัดแต่งกิ่งที่ถูกหนอนเจาะทำลายแล้วนำไปเผาทิ้ง
2. กรณีที่กิ่งใหญ่หรือลำต้นถูกเจาะทำลาย ให้หารูเจาะของหนอนแล้วใช้ คลอร์ไพรีฟอส 40% อีซี อัตรา 1 - 2 มล.
ฉีดอัดเข้าไปในรูแล้วอุดด้วยดินเหนียว |
|
หนอนปอก |
|
|
|
|
ลักษณะการเข้าทำลาย |
ตัวหนอนของผีเสื้อกลางคืนออกมาจากปลอก จะแทะเล็มและกัดกินใบมะขามพร้อมกับทำรังหุ้มตัวและเกาะอยู่ใต้ใบ
หรือตามก้านใบ |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. ใช้สารเคมีกำจัดแมลงกลุ่มไตรคลอร์ฟอน อัตราการใช้ตามคำแนะนำในฉลาก
2. ใช้กับดักแสงไฟโดยใช้แสงไฟ Black light หรือหลอดนีออนธรรมดาวางบนกะละมังพลาสติก ซึ่งบรรจุน้ำผงซักฟอก
ให้หลอดไฟอยู่เหนือน้ำประมาณ 5 - 10 ซม. วางล่อผีเสื้อช่วงเวลา 18.00 -19.00 น. สามารถช่วยกำจัดการขยายพันธุ์ในรุ่นต่อไป
3. เก็บปลอกหนอนในช่วงกลางวันตามใต้ใบมะขามหรือเก็บตามก้านใบมาทำลายโดยการฝังหรือเผา |
|
หนอนเจาะฝัก |
|
|
|
|
ลักษณะการเข้าทำลาย |
ตัวหนอนกัดกินบริเวณผิวเปลือกและเจาะเข้าไปภายในฝัก ถ้าเป็นฝักอ่อนจะทำให้ฝักลีบ ส่วนฝักมะขามแก่จะกัดกินเนื้ออ่อนภายในและถ่ายมูลออกมาเป็นขุยอยู่บนฝักมะขาม |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. หมั่นตรวจดูฝักที่ถูกหนอนทำลายที่ร่วงหล่นตามโคนต้น นำเก็บไปเผาทำลาย
2. ใช้สารเคมีกำจัดแมลงกลุ่มคาร์บาริล อัตราการใช้ตามคำแนะนำในฉลาก ฉีดพ่นป้องกันในระยะที่ฝักมะขามยังอ่อน |
|
โรคราสีชมพู : เกิดจากเชื้อรา |
|
|
|
|
ลักษณะการทำลาย |
พบบริเวณกิ่งหรือลำต้น หากเข้าทำลายที่ใบจะมีสีเหลืองซีด ใบร่วงเหลือแต่กิ่ง มีคราบของเชื้อราสีขาวอมชมพูแผ่ขยายปกคลุม เมื่อผ่าตรวจดูเปลือกจะผุเนื้อไม้ยุ่ยและกิ่งแห้งตายในที่สุด |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. ตัดกิ่งที่เป็นโรคทิ้งแล้วเผาทำลาย และทารอยตัดด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อราพวกสารประกอบทองแดง เช่น คอป
เปอร์ออกซีคลอไรด์ 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เอดิเฟนฟอส 30 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
2. รักษากิ่งที่ถูกเชื้อราเข้าทำลายใหม่ ๆ โดยการถากเปลือกที่เป็นโรคออก แล้วทาด้วยสารประกอบทองแดง
3. พ่นสารป้องกันกำจัดโรคเช่น เบโนมิล คาร์เบนดาซิม โปรคลอราช แมนโคเซบและคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์เป็นต้น
อัตราการใช้ตามคำแนะนำในฉลาก |
|
โรคราแป้ง : เกิดจากเชื้อรา |
|
|
|
|
ลักษณะการทำลาย |
พบจุดด่างเหลืองบนใบด้านบน ลักษณะเป็นจุดเดี่ยวแล้วเริ่มเหลืองคลุมทั่วพื้นที่ใบ ทำลายทั้งใบอ่อนและใบแก่ อาการรุนแรงใบจะร่วง พบมากที่สุดในช่วงต่อระหว่างฤดูฝนกับฤดูหนาว |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. ตัดกิ่งและใบที่เป็นโรคทำลายโดยเผาหรือฝังดิน
2. พ่นด้วยสารไดโนแคป 19.5% WP อัตรา 15 - 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือไตรอะดิมิฟอน 25% WP อัตรา 15 กรัม
ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ กำมะถันผงละลายน้ำอัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร |
|
|
ข้อมูลจาก : กรมส่งเสริมการเกษตร. 2557. คู่มือพืชเศรษฐกิจ. กรุงเทพฯ
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ. 2552. 52 สัปดาห์รู้แล้วรวย. กรุงเทพฯ
http://www.snatup.com/snat4b/Tanarinddiseases.html
http://www.rakbankerd.com/view.php?id=2976&s=2
|