|
โรค แมลง ศัตรูพืชและการเข้าทำลาย... ส้มโอในฤดูแล้ง |
|
เผยแพร่ : วันที่ 12 เมษายน 2559 |
|
|
แมลงวันผลไม้ |
|
|
|
|
|
|
ลักษณะการเข้าทำลาย |
ความเสียหายของแมลงวันผลไม้มักจะเกิดขึ้นเมื่อเพศเมียใช้อวัยวะวางไข่ (ovipositor) แทงเข้าไปในผลส้มโอที่ใกล้สุก ตัวหนอนที่ฟักจากไข่จะอาศัย และชอนไชอยู่ภายในทำให้ผลเน่าเสีย และร่วงหล่นลงพื้น ในระยะเริ่มจะสังเกตได้ยากอาจพบอาการซ้ำ
บริเวณใต้ผิวเปลือก เมื่อหนอนโตขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ผลเน่าเละและมีน้ำไหลเยิ้มออกทางรูที่หนอนเจาะออกมาเพื่อเข้าดักแด้ในดิน |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. ทำความสะอาดบริเวณแปลงเพาะปลูก โดยการรวบรวมผลไม้ที่เน่าเสียที่ถูกแมลงวันผลไม้ทำลาย นำไปทำปุ๋ยหมัก
ชีวภาพหรือฝังดินที่ความลึก 50 ซม. ขึ้นไป
2. การห่อผลส้มโอด้วยถุงกระดาษเมื่อผลอายุ 3 - 4 เดือนหลังดอกบาน ห่อให้มิดชิดไม่ให้มีรูหรือรอยฉีกขาดเกิดขึ้น
มิฉะนั้นแมลงจะเข้าไปวางไข่ได้
3. ใช้สารล่อเมทิลยูจินอลร่วมกับมาลาไทออน อัตราส่วน 3 : 1 โดยปริมาตรในกับดักสารล่อเพื่อใช้ล่อแมลงวันผลไม้
เพศผู้
4. การใช้เหยื่อพิษ โดยการนำเอายีสต์โปรตีนออโตไลเสท หรือโปรตีนไฮโคร ไลเสทมาเป็นเหยื่อล่อแมลงวันผลไม้
โดยใช้ยีสต์โปรตีนออโตไลเสทหรือโปรตีนไฮโดรไลเสท 800 ซีซี ผสมกับสารเคมีกำจัดแมลง จำนวน 280 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร โดยสามารถนำไปใช้ได้ 2 วิธี ดังนี้
- บรรจุลงภาชนะ แล้วนำไปแขวนตามที่ต่าง ๆ ที่สำคัญต้องแขวนให้สูงพ้นมือเด็ก
- ฉีดพ่นโดยใช้หัวฉีดขนาดใหญ่ ให้สารละลายเหยื่อพิษที่ฉีดออกมาเป็นหยดประมาณ 80 หยดต่อพื้นที่ 1 ตร.ม.
ส่วนผสมนี้สามารถนำไปพ่นแบบเป็นจุด 2 - 4 จุดต่อต้น อัตราที่ใช้ 150 - 350 ซีซี ต่อไม้ผล 1 ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น จะสามารถดึงดูดได้ทั้งแมลงวันผลไม้ตัวผู้และตัวเมีย |
|
เพลี้ยอ่อนสีเขียว |
|
|
|
|
ลักษณะการเข้าทำลาย |
เพลี้ยอ่อนชนิดนี้จะดูดกินนํ้าเลี้ยงจากใบและยอดอ่อนซึ่งมีผลทำให้ใบนั้นหยิกและงอ ต้นแคระแกรน ส่งให้การเจริญเติบ
โตหยุดชะงัก เพลี้ยอ่อนจะขับสารออกมาจากร่างกายเป็นนํ้าหวานซึ่งเป็นอาหารที่เหมาะในการเจริญเติบโตของราดำ
|
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. หมั่นตรวจติดตามสถานการณ์ ถ้าพบไม่มากนักให้ตัดส่วนที่สำรวจพบการระบาดและเผาทำลาย
2. พ่นด้วยสารอิมิดาโคลพริด10% เอสแอล อัตรา 8 มล.หรือ 5% อีซี อัตรา 16 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตรหรือปิโตรเลียมออยล์
83.9% อีซี อัตรา 60 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร ให้เปียกทั่วต้นทั้งภายนอกและภายในทรงพุ่ม
|
|
เพลี้ยไก่แจ้ส้ม |
|
|
|
|
ลักษณะการเข้าทำลาย |
ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงจากยอดอ่อน ตัวอ่อนจะกลั่นสารสีขาวมีลักษณะเป็นเส้นด้าย และอาจทำให้เกิดราดำตามมา ใบที่ถูกทำลายจะเป็นคลื่นถ้าทำลายรุนแรงจะทำให้ใบร่วงติดผลน้อย หรือไม่ติดผลเลย เพลี้ยไก่แจ้ส้มนอกจากจะทำความเสียหายยังเป็นพาหะถ่ายทอดโรคใบเหลืองต้นโทรมหรือกรีนนิ่ง ต้นจะทรุดโทรมและตายในที่สุด |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. หมั่นตรวจติดตามสถานการณ์ ถ้าพบไม่มากนักให้ตัดส่วนที่สำรวจพบการระบาดและเผาทำลาย
2. ฉีดพ่นด้วยสารารอิมิดาโคลพริด 10% เอสแอล อัตรา 8 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นซ้ำห่างกัน 7 - 10 วัน |
|
เพลี้ยไฟส้ม |
|
|
|
|
ลักษณะการเข้าทำลาย |
เพลี้ยไฟจะเจาะเข้าไปในผิวใบและดูดกินนํ้าเลี้ยงของใบส้ม ผลที่ยังอ่อนเพลี้ยไฟจะเจาะตรงส่วนที่อยู่ใกล้กับกลีบดอก
เมื่อผลโตขึ้นก็จะเจาะบริเวณใกล้เคียงกับขั้วทำให้บริเวณที่ถูกเจาะนั้นมีรอยเป็นสะเก็ดสีเทา
ส่วนใบที่ถูกทำลายนั้นก็จะแคระแกรน หงิกงอ
นอกจากเข้าทำลายที่บริเวณใบและผลแล้ว เพลี้ยไฟยังทำลายกิ่งอ่อน และดอกอีกด้วย |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. หมั่นตรวจติดตามสถานการณ์ ถ้าพบไม่มากนักให้ตัดส่วนที่แมลงระบาดไปเผาทิ้ง
2. สำรวจหากพบเพลี้ยไฟเกิน 4 ตัวต่อยอด 10 ต้น ต้นละ 5 ยอด ให้ฉีดพ่นด้วยสารเคมี อิมิดาโคลพริด 10% เอสแอล
อัตรา 10 มล. สารเฟนโพรพาทริน 10% อีซี อัตรา 30 มล. สารอีไทออน 50% อีซี อัตรา 20 มล. หรือสารอะบาเม็กติน 1.8% อีซี อัตรา 10 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร ประมาณ 7 - 10 วัน ต่อครั้ง |
|
ไรแดงส้้ม |
|
|
|
|
ลักษณะการเข้าทำลาย |
ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของไรแดงส้มชนิดนี้จะดูดกินนํ้าเลี้ยงจากใบ ผล และกิ่งอ่อนของต้นส้มซึ่งจะทำให้บริเวณที่ถูก
ทำลายนั้น
เห็นเป็นจุดสีอ่อน ๆ ซึ่งต่อมาจะค่อย ๆ ขยายตัวออกไปทั่วจนมีสีเทาหรือสีตะกั่ว ในกรณีที่พบระบาดมาก ๆ จะทำให้ใบ และผล
ร่วงหล่นได้ และอาจจะทำให้ผลที่ถูกทำลายมีลักษณะแคระแกรนและคุณภาพเสื่อมลง มักระบาดมากในฤดูแล้ง |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. หมั่นสำรวจแปลงส้มอยู่เป็นประจำ เมื่อพบไรแดงเริ่มลงทำลายส้ม ให้ทำการป้องกันกำจัดโดยวิธีกล ด้วยการให้น้ำ
ติดต่อกันหลาย ๆ ครั้ง
2. ฉีดพ่นด้วยกำมะถัน 80% ดับบลิวพี อัตรา 60-80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตรหรือพ่นสารอะมีทราซ 20% อีซี อัตรา 40 มล.
ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารโพรพาร์ไกต์ 30% ดับลิวพี อัตรา 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ควรหยุดพ่นสารก่อนการเก็บเกี่ยว 15 วัน |
|
โรคกรีนนิ่ง หรือโรคใบเหลืองต้นโทรม : เกิดจากเชื้อคล้ายแบคทีเรีย |
|
|
|
|
ลักษณะการเข้าทำลาย |
ใบเหลืองซีด เส้นใบสีเขียวหรือใบด่าง ใบเล็กเหลือง หรืออาการคล้ายกับขาดธาตุอาหาร มักเกิดกับกิ่งใดกิ่งหนึ่งก่อน ใบแก่หนาม้วนงอ และมีเส้นใบปูดแตกสีน้ำตาล ต้นทรุดโทรม ผลร่วงก่อนอายุการเก็บเกี่ยว ระบบรากอ่อนแอ และเน่า มีเพลี้ยไก่แจ้เป็นแมลงพาหะ |
|
การควบคุมและป้องกัน |
1. ถ้าเริ่มพบอาการโรคกรีนนิ่งให้ตัดกิ่งที่มีอาการทิ้งและเผา ทำลาย
2. ถ้าพบอาการมากกว่าร้อยละ 50 ของทรงพุ่ม ให้ขุดต้นทิ้งและเผาทำลาย
3. ควบคุมเพลี้ยไก่แจ้ส้ม โดยพ่นสารอิมิดาโคลพริด 10% เอสแอล อัตรา 8 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร หยุดพ่นสารก่อนการ
เก็บเกี่ยว 14 วัน |
|
|
ข้อมูลจาก : http://www.eto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/tree_fruit/guava.pdf
http://www.oard1.org/pdf/GAP and Organic/ส้มโอ/pameloquality.pdf
ระบบการจัดการคุณภาพ : Gap พืช.ส้มโอ.2550. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
http://www.oknation.net/blog/horti-asia/2013/01/16/entry-5
คู่มือปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรเรื่อง องค์ความรู้เพิ่มประสิทธิภาพสู่การเป็น
smart office : ไม้ผล.2556. กรมส่งเสริมการเกษตร
|