ตัวหนอนจะสร้างใยผสมกับมูลทำเป็นอุโมงค์ยาวคล้ายทางเดินของปลวกคลุมเส้นทางที่หนอนแทะกินผิวใบ ยาวตามใบ มะพร้าวและอาศัยอยู่ภายในอุโมงค์ที่สร้างขึ้นการทำลายส่วนใหญ่พบบนใบแก่ ใบที่ถูกทำลายจะมีลักษณะแห้งเป็นสีน้ำตาล ตัวหนอน จะสร้างใยดึงใบย่อยให้ติดกันเป็นแพ
ตาลโตนด อินทผลัม หมาก ปาล์มน้ำมัน ปาล์มประดับต่างๆ เช่น ตาลฟ้า ปาล์มหางกระรอก หมากเขียว หมากแดง จั๋ง และยังพบลงทำลายต้นกล้วยที่ปลูกในสวนมะพร้าวด้วย
1. ตัดทางใบมะพร้าวที่ถูกหนอนทำลายนำไปเผา เพื่อกำจัดหนอนและดักแด้ 2. ใช้เชื้อแบคทีเรีย (Bt) พ่นใบมะพร้าวที่ยังไม่ถูกทำลาย เพื่อควบคุมหนอนที่เพิ่งฟักออกจากไข่ พ่นติดต่อกัน 3 ครั้ง แต่ละคร้้งห่างกัน 7 - 10 วัน 3. ปล่อยแตนเบียนไข่ทริโคแกรมม่า ทำลายไข่หนอนหัวดำ อัตรา 10 แผ่นต่อไร่ อย่างต่อเนื่อง ห่างกัน 2 สัปดาห์ จนสำรวจไม่พบตัวหนอน 4. ปล่อยแตนเบียนหนอนบราคอน ทำลายหนอนหัวดำ อัตรา 200 ตัวต่อไร่ อย่างต่อเนื่อง ห่างกัน 2 สัปดาห์ จนสำรวจ ไม่พบตัวหนอน 5. ฉีดสารเคมีอีมาเม็กตินเบนโซเอต 1.92% อีซี อัตรา 30 มล.ต่อต้น เจาะลำต้นมะพร้าวสูงจากพื้นดิน ประมาณ 1 ม. จำนวน 2 รู ให้รูอยู่ตรงกันข้ามกัน ใส่สารเคมีรูละ 15 มิลลิลิตร แล้วใช้ดินน้ำมันอุดรูทันที โดยแนะนำให้ฉีดเข้าลำต้น เฉพาะมะพร้าวที่ มีความสูงมากกว่า 12 ม. ขึ้นไป ห้ามใช้กับมะพร้าวน้ำหอม และมะพร้าวกะทิ 6. กรณีมะพร้าวที่มีความสูงน้อยกว่า 12 ม. วัดจากปลายใบบนสุด มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวกะทิ และมะพร้าวทำน้ำตาล ให้ใช้วิธีพ่นสารเคมีทางใบ โดยเลือกใช้สารเคมีชนิดใดชนิดหนึ่งตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร ดังนี้ 6.1 ฟลูเบนไดเอไมด์ 20% WG อัตรา 5 กรัม/น้ำ 20 ลิตร 6.2 คลอแรนทรานิลิโพรล 5.17% SC อัตรา 20 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลิตร 6.3 สปินโนแสด 12% SC อัตรา 20 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลิตร 6.4 ลูเฟนยูรอน 5% EC อัตรา 20 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลิตร
ข้อมูล : กลุ่มพยากรณ์และเตือนการระบาดศัตรูพืช