|
่โรคแอนแทรคโนสกล้วยไม้ (Anthracnose) |
|
เผยแพร่ : วันที่ 12 เมษายน 2559 |
|
เชื้อสาเหตุ |
: เชื้อรา Collectotrichum sp. |
วงศ์ |
: |
อันดับ |
: |
ชื่อสามัญอื่น |
: |
|
|
ลักษณะอาการ |
ใบจะเป็นแผลวงกลมสีน้ำตาลอมแดงหรือสีน้ำตาลไหม้ ซึ่งขยายออกเป็นแผลใหญ่เห็นเป็นวงกลมซ้อนกันหลายชั้น
เนื้อเยื่อที่เป็นแผลบุ๋มลึกลงไปต่ำกว่าระดับผิวใบเล็กน้อย กล้วยไม้บางชนิดมีขอบแผลเป็นเนื้อเยื่อสีเหลืองล้อมรอบแผล เช่น ลักษณะ
แผลของพวกแมลงปอ ฯลฯ บางชนิดแผลมีขอบสีน้ำตาลเข้มกว่าภายในและไม่มีขอบแผลสีเหลืองเลย เช่น แผลของกล้วยไม้ดินบาง
ชนิด เนื้อเยื่อของแผลนานเข้าจะแห้งบางผิดปกติ ขนาดของแผลแตกต่างกันแล้วแต่สภาพแวดล้อม บางแห่งมีเชื้อราอื่นมาขึ้นร่วมภาย
หลังทำให้แผลขยายกว้างออกไปจนมีลักษณะที่เป็นแผลวงกลม อาการเริ่มแรกกล้วยไม้ที่มีใบอวบอมน้ำมาก เช่น แคทลียา ลูกผสม
แมลงปอ และกล้วยไม้ดินบางชนิดใบจะเน่าเปื่อยถ้าฝนตกชุก แต่โดยปกติจะเป็นแผลแห้งติดอยู่กับต้น
|
|
|
|
|
กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำวิธีป้องกันกำจัด ดังนี้ |
1. เก็บรวบรวมใบที่เป็นโรค ไปเผาทำลาย เพื่อเชื้อจะได้ไม่แพร่ระบาดไปยังที่อื่นๆ
2. อย่าให้กล้วยไม้ได้รับแสงแดดจัดมากเกินไป เพราะจะทำให้ใบอ่อนแอ และเกิดโรคได้ง่าย
3. พ่นด้วยสารป้องกันและกำจัดโรคพืช ตามแนะนำ พ่นเมื่อพบโรคทุก 7 - 10 วัน เช่น
- แมนโคเซบ แคปแทน คาร์เบนดาซิม โปรคลอราท อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร สลับกับแมนโคเซบ อัตรา
40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
- สารฟอลเพต อัตรา 30 - 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร |
|
|
ข้อมูล : กลุ่มพยากรณ์และเตือนการระบาดศัตรูพืช
|