โรคไหม้ข้าว (Rice Blast Disease)
 
เผยแพร่ : วันที่ 25 มกราคม 2559
 
ชื่อวิทยาศาสตร์ : เชื้อรา  Pyricularia oryzae Sacc.
   
 
ลักษณะอาการ
                ระยะกล้า ใบมีแผล จุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา มีสีเทาอยู่ตรงกลางแผล   ความกว้างของแผลประมาณ 2 - 5 มม.  และความ
ยาวประมาณ 10 - 15 มม. แผลสามารถขยายลุกลามและกระจายทั่วบริเวณใบ   ถ้าโรครุนแรงกล้าข้าวจะแห้งฟุบตาย อาการคล้ายถูก
ไฟไหม้
                ระยะแตกกอ อาการพบได้ที่ใบ ข้อต่อของใบ และข้อต่อของลำต้น  ขนาดแผลจะใหญ่กว่าที่พบในระยะกล้า แผลลุกลาม
ระยะกล้า แผลลุกลามติดต่อกันได้ที่บริเวณข้อต่อ  ใบจะมีลักษณะแผลช้ำสีน้ำตาลดำ และมักหลุดจากกาบใบเสมอ
                ระยะออกรวง (โรคเน่าคอรวง) ถ้าข้าวเพิ่งจะเริ่มให้รวง เมื่อถูกเชื้อราเข้าทำลาย เมล็ดจะลีบหมดแต่ถ้าเป็นโรคตอนรวงแก่
ใกล้เก็บเกี่ยว จะปรากฏรอยแผลช้ำสีน้ำตาลที่บริเวณคอรวง ทำให้เปราะ หักง่าย รวงข้าวร่วงหล่นเสียหายมาก
 
 
การแพร่ระบาด

                  พบโรคในแปลงที่ต้นข้าวหนาแน่น    ทำให้อับลม ถ้าใส่ปุ๋ยอัตราสูงและมีสภาพอากาศแห้งในตอนกลางวันและชื้นจัดใน
กลางคืน ลมแรงจะแพร่กระจายโรคได้ดี

 
กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำวิธีป้องกันกำจัด ดังนี้

                  1. สำรวจแปลงนา อย่างสม่ำเสมอถ้าพบอาการของโรคไหม้ข้าวควรให้ปฏิบัติดังนี้
                     1.1 ใช้เชื้อบีเอส (บาซิลลัส ซับทีลิส) พ่นอัตราตามคำแนะนำในฉลาก
                     1.2 ใช้เชื้อไตรโครเดอร์มาอัตรา 1 กก./น้ำ 200 ลิตรพ่น
                  2. ถ้ามีความจำเป็นให้ใช้สารเคมีพ่นเฉพาะจุดที่พบการระบาด      เพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายขยายเป็นวงกว้าง
ออกไป สำหรับสารเคมีที่ใช้  ได้แก่
                      - อิดิเฟนฟอส 50 %์ อีซี อัตรา 20 - 25 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร
                      - บลาสติซิดิน - เอส 2 % อีซี อัตรา 20 - 25 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร
                      - ไตรไซคราโซล 75 % ดับบลิวพี อัตรา 10 - 16 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร
                      ควรพ่นในแปลงข้าวที่มีประวัติว่าเคยมีโรคระบาดมาก่อนการใช้สารเคมีพ่นซ้ำกันหลายครั้ง เชื้อราจะต้านทานสารเคมี
หรือดื้อยา ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราต้านทานสารเคมี    จึงควรเลือกใช้สารเคมีบางชนิดพ่นสลับกัน ทั้งนี้ในการใช้สารเคมีควรใช้
ด้วยความระมัดระวัง และคำนึงถึงความปลอดภัยต่อตัวผู้ใช้และสภาพแวดล้อม
                   3. หว่านเมล็ดพันธุ์ในอัตราที่เหมาะสม 15 – 20 กิโลกรัมต่อไร่ ควรแบ่งแปลงให้มีการถ่ายเทอากาศได้ดี         
                   4. คลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น ไตรไซคลาโซล คาซูกาไมซิน คาร์เบนดาซิม โพรคลอราซ  อัตรา
ตามคำแนะนำในฉลาก

 

้อมูล : กลุ่มพยากรณ์และเตือนการระบาดศัตรูพืช

 
Copyright © 2014 กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย
กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โทร.02 - 955 - 1626, 02 - 955 - 1514