มาตรการการจัดการด้วงแรดในมะพร้าวและปาล์มน้ำมัน
 
ข้อมูล : กลุ่มส่งเสริมการวินิจฉัยศัตรูพืช
เผยแพรข้อมูล่ : วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559
 
                ด้วงแรดระยะตัวเต็มวัยเท่านั้นที่เป็นศัตรูพืช โดยบินขึ้นไปกัดเจาะโคนทางใบมะพร้าวหรือปาล์มน้ำมัน ทำให้ทางใบหักง่าย
และยังกัดเจาะทำลายยอดอ่อนทำให้ทางใบที่เกิดใหม่ไม่สมบูรณ์   มีรอยขาดแหว่งเป็นริ้วๆ     คล้ายรูปสามเหลี่ยมถ้าต้นพืชถูกทำลาย
ทำลายมากๆ  ทำให้ใบที่เกิดใหม่แคระแกร็น    รอยแผลที่ถูกด้วงแรดกัดนั้นเป็นเนื้อเยื่ออ่อน   จึงเป็นช่องทางให้ด้วงงวงมะพร้าวเขามา
วางไข่ หรือทำให้เกิดโรคยอดเน่าจนทำให้ต้นพืชตายได้ในที่สุด

                 ด้วงแรดมีอายุยืนยาวหลายเดือนและมีการผสมพันธุ์หลายครั้ง ด้วงแรดเพศเมียจะรับการผสมพันธุ์และวางไข่เมื่อออกจาก
ดักแด้แล้ว 40 - 50 วัน  และเมื่อได้รับการผสมพันธุ์เพียงครั้งเดียวจะสามารถวางไข่ที่สมบูรณ์ได้นานถึง 130 วัน      ปกติวางไข่ครั้งละ
10 - 30 ฟองสูงสุดประมาณ 152 ฟองโดยด้วงแรดชอบวางไข่ในที่ที่มีความชื้นพอเหมาะอุณหภูมิระหว่าง 20 - 30 องศาเซลเซีลเซียส



ตัวเต็มวัยมีอายุ 90 - 120 วัน ระยะไข่ 10 - 12 วัน
ระยะดักแด้ 23 - 28 วัน ระยะหนอน 80 - 150 วัน
ที่มา : กรมวิชาการเกษตร (2556)
 

                   ด้วงแรดมีพฤติกรรมการผสมพันธุ์    และวางไข่ตามซากเน่าเปื่อยของลำต้นหรือตอของต้นมะพร้าว ปาล์มน้ำมันซากพืช
ที่เน่าเปื่อย  เช่น   ซากเปลือกมะพร้าว    และทะลายปาล์ม กองมูลสัตว์เก่า   กองปุ๋ยคอก กองปุ๋ยหมัก   กองขุยมะพร้าว   กองขี้เลื่อย
กองกากเมล็ดกาแฟ และ กองขยะ เพื่อให้หนอนวัยต่างๆ มีอาหารเพียงพอจนถึงระยะดักแด้และเป็นตัวเต็มวัย   ดังนั้น มาตรการการจัด
การด้วงแรดจึงเน้นที่จัดการกับแหล่งผสมพันธุ์และแหล่งวางไข่ตามสถานที่ต่างๆ ดังนี้

                    1. สำรวจบริเวณที่เป็นแหล่งผสมพันธุ์และวางไข่ดังกล่าวข้างต้น   โดยการคุ้ยดูใต้กอง หากพบตัวหนอนด้วงแรดให้จับ
ทำลายทันที    และเกลี่ยกองซากพืช กองมูลสัตว์ให้กระจายออกโดยมีความสูงไม่เกิน 15 ซม.  เพื่อป้องกันการวางไข่

                    2. เกลี่ยกองทลายปาล์ม    หรือเศษซากพืชที่ใช้คลุมโคนต้น   เพื่อรักษาความชื้นในช่วงแล้ง     ให้สูงไม่เกิน 15 ซม.
โดยเฉพาะฤดูผสมพันธุ์ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม

                    3. ใส่เชื้อราเมตาไรเซียมตามกองซากพืช   กองมูลสัตว์ที่อยู่ตามสวนมะพร้าว และสวนปาล์มที่เริ่มมีการย่อยสลายแล้ว อย่างน้อย 2 ครั้ง/ปี โดยสามารถติดต่อของเชื้อราเมตาไรเซียมได้ที่ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช

                    4. หากพบการทำลายของด้วงแรดในต้นพืช    ให้ใช้กับดักฟีโรโมนล่อตัวเต็มวัยเพื่อจับทำลาย   หรือใช้ผสมผสานกัน
ระหว่างกับดักฟีโรโมนและการทำกองล่อ
 
รายละเอียดวิธีป้องกันกำจัด
                        1. การควบคุมโดยวิธีเขตกรรม คือการกำจัดแหล่งขยายพันธุ์ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด ลงทุนน้อย และสะดวกเพราะอยู่บน
พื้นดิน สามารถกำจัดไข่ หนอน ดักแด้และตัวเต็มวัย ไม่ให้เพิ่มปริมาณได้ โดยยึดหลักปฏิบัติดังนี้
                            1.1 เผาหรือฝังซากลำต้นหรือตอของมะพร้าว
                            1.2 เกลี่ยกองซากพืช กองมูลสัตว์ให้กระจายออกโดยมีความสูงไม่เกิน 15 ซม.
                            1.3 ถ้ามีความจำเป็นต้องกองมูลสัตว์นานเกินกว่า 2 - 3 เดือน ควรหมั่นพลิกกลับกอง  หรือนำใส่ในถุงปุ๋ยผูกปาก
ให้แน่นและนำไปเรียงซ้อนกันไว้

                         2. การควบคุมโดยวิธีกล   ทำความสะอาดบริเวณคอมะพร้าวหรือปาล์มตามโคนทางใบสม่ำเสมอ  หากพบรอยแผล เป็นรูใช้เหล็กแหลมแทงหาด้วงแรดเพื่อกำจัดตัวเต็มวัยของด้วงแรด

                         3. ควบคุมโดยชีววิธี ใช้เชื้อราเมตาไรเซียมโดยทำกองล่อ ดังนี้
                             3.1 ใช้ต้นมะพร้าวตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 2 เมตร   จำนวน 8 ท่อน ทำขอบด้วยการวางท่อนมะพร้าวให้เป็นรูป
สี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนกัน 2 ชั้น หรือการใช้ท่อนมะพร้าวทำขอบชั้นเดียว
                             3.2 ขุดดินภายในกองให้ลึกประมาณ 0.5 เมตร แล้วใส่ขี้เลื่อย    หรือขุยมะพร้าวผสมเศษหญ้าแห้งและปุ๋ยคอก
ให้เต็มกองล่อ การเติมมูลวัวในกองล่อสามารถล่อให้ตัวเต็มวัยของด้วงแรดมะพร้าวมาวางไข่ได้เป็นจำนวนมาก
                             3.3 รดน้ำเพิ่มความชื้นในกองล่อ   เพื่อให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี       หาวัสดุคลุมกองล่อเช่นทางมะพร้าวหรือ
เศษใบไม้ เพื่อรักษาความชื้นในกองล่อ
                             3.4 หลังการทำกองล่อ 2 - 3 เดือน ตรวจปริมาณหนอน     จะเริ่มพบด้วงแรดมาวางไข่  และเจริญเป็นตัวหนอน
เมื่อพบหนอนด้วงแรด ใช้เชื้อราเขียวเมตาไรเซียมในอัตรา 400 กรัมต่อกองล่อ คลุกผสมลงในกองล่อให้ทั่ว เชื้อราเขียวในกล่องล่อจะ
จะมีประสิทธิภาพในการกำจัดหนอนด้วงแรดมะพร้าวได้นานประมาณ 6 - 12 เดือน

                             ข้อควรระวังในการใช้เชื้อราเมตาไรเซียม

                             1. ราเขียวเมตาไรเซียมต้องการความชื้นสูงในการงอก จึงควรเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น ในช่วงฤดูฝน หรือ
ปลายฝนต้นหนาว

                             2. หลีกเลี่ยงการใช้ในช่วงที่มีแสงแดดจัดเช่นเวลากลางวัน ควรใช้ช่วงเวลาเย็น พลบค่ำหรือหลังพระอาทิตย์ตก

                             3. ผู้ใช้ควรสวมเครื่องป้องกัน เช่น ใช้ผ้าปิดปากและจมูก    เพื่อหลีกเลี่ยงการสูดหายใจเอาละอองเชื้อเข้าระบบ
ทางเดินหายใจ สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อาจทำให้เกิดอาการผื่นคันได้

                          4. ใช้กับดักฟีโลโมน ล่อตัวเต็มวัยแล้วจับทำลาย   เพื่อลดการขยายพันธุ์และประชากรด้วงแรดในรุ่นต่อไปปัจจุบัน สามารถสังเคราะห์ฟีโรโมนด้วงแรดผลิตในรูปการค้าได้แล้ว   มีอายุการใช้งานประมาณ 2 - 3 เดือน  ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ  ถ้าอุณหภมิสูง
ฟีโรโมนจะระเหยเร็ว    ลักษณะของกับดักฟีโรโมนประกอบด้วยถังพลาสติก   และสังกะสีแผ่นเรียบสีดำประกอบกันดังรูป เมื่อด้วงแรด
เมื่อด้วงแรดได้กลิ่นฟีโรโมนจะบินเข้าหาต้นกำเนิดเมื่อมาถึงกับดักจะชนแผ่นเรียบเหนือถัง และตกลงในถังเก็บทำลายได้โดย 1 กับดัก
สามารถใช้ใด้กับพื้นที่ 10 - 12 ไร่

   
 
เอกสารอ้างอิง : กรมวิชาการเกษตร. 2556.  เอกสารประกอบการอบรมเรื่อง การจัดการแมลงศัตรูมะพร้าวที่เกาะสมุย. 
 
 
 
 
Copyright © 2015 กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย
กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โทร.02 - 955 - 1626, 02 - 955 - 1514